Article

การเลือกผ้าม่านให้เข้ากับบ้าน

การเลือกผ้าม่านให้ดูเข้ากับบ้านนั้นความจริงแล้ว ไม่ใช่แค่การเลือกลวดลายให้สวยงามตามความต้องการเท่านั้น แต่เป็นเรื่องการดูความเหมาะสมของการใช้งาน เราจึงขอเสนอการเลือกซื้อผ้าม่านเพื่อให้เหมาะแก่การใช้งานในรูปแบบต่างๆ มาให้ได้รู้กันรวมไปถึงเพื่อการปรับโฉมห้องสวยของคุณให้สวยและเข้ากับยุคสมัยอีกด้วย



การแบ่งประเภทผ้าม่านตามการใช้งานนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ


ผ้าม่านกรองแสง จะมีลักษณะเป็นผ้าสีอ่อน น้ำหนักเบาเพื่อให้แสงผ่านตามลายผ้า เมื่อมองแล้วจึงให้ความรู้สึกสบายตา


ผ้าม่านกันแสง จะมีความทึบแสง นั่นหมายถึงแสงสามารถผ่านได้น้อยมาก อาจเป็นเพราะเนื้อผ้าหรือมีผ้าหลายชั้นก็ได้เช่นกัน มีน้ำหนักมากจึงทำให้ต้องมีรางม่านหรืออุปกรณ์ประกอบ หากใช้คู่กับผ้าม่านกรองแสงควรเป็นสีในโทนเดียวกันแต่เลือกให้มีสีที่เข้มกว่า



การเลือกผ้าม่านสำหรับห้องต่างๆ


ห้องรับแขก เป็นห้องที่ใช้งานบ่อยสำหรับทุกคนในบ้านและเป็นห้องที่ต้องใช้ต้อนรับแขกหรือผู้มาติดต่อเยี่ยมเยียน การตกแต่งที่สวยงามลงตัวยังเป็นการบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าบ้าน


เน้น : การตกแต่งห้องเพื่อให้ดูสวยงาม อีกทั้งยังสามารถช่วยกันแสงและกรองแสงได้ระดับหนึ่งเพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัว ให้แก่เจ้าของบ้านและแขกผู้มาเยือน


แนะนำ : เราสามารถเลือกผ้าม่านที่มีลวดลาย หรือสีของผ้าม่านก็อาจเข้มขึ้นมาตามบรรยากาศ และสภาพแวดล้อม เช่น ถ้าห้องที่กว้างและสูงโปร่ง มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม่แน่นมาก ก็ไม่มีปัญหาสำหรับการใช้ผ้าม่านที่มีโทนสีเข้มหรือแบบที่มีลาย  แต่ถ้าห้องแคบโดยเฉพาะบ้านเดี่ยวหลังเล็กหรือทาวน์เฮาส์ ก็ต้องดูที่ความเหมาะสม สามารถตกแต่งเพิ่มลายละเอียดให้ดูสวยงาม มีสีสัน เด่น สะดุดตา โดยการเติมลูกเล่นให้กับผ้าม่าน อาจเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งเช่น ตะขอและสายรวบม่านที่มีให้เลือกในรูปแบบต่างๆ เช่น พู่ ระบาย ชายครุย เกรียวเชือก หรือการตัดสีของผ้าที่เรียกว่าทูโทน จะให้ดีให้สวยควรมีผ้าโปร่ง เพื่อให้ได้บรรยากาศของความนุ่มนวล สวยงาม เพิ่มบรรยากาศให้น่าอยู่ ความสำคัญอีกอย่างของม่านโปร่ง คือช่วยบังสายตาจากคนภายนอก ในขณะที่เราเปิดม่านทึบเพื่อรับแสงช่วงกลางวัน ผ้าโปร่งที่ใช้ควรเป็นโทนสีขาว


สี : เรื่องของสีที่จะเลือกใช้ในห้องนี้ ขอแค่ให้ดูความลงตัวของโทนสีในห้องเป็นหลักเพียงเท่านี้ก็เหมาะสมแล้ว


ห้องนอน ถือเป็นห้องส่วนตัวและแสดงความเป็นตัวตนของเราได้อย่างเต็มที่ สามารถแต่งเติม เสริมบรรยากาศตามจินตนาการของเรา โทนสีหรือรูปแบบไม่มีข้อจำกัด ขึ้นอยู่ที่ความชอบหรือสไตล์ของแต่ละบุคคล แต่ควรคำนึกถึงสิ่งแวดล้อม เฟอร์นิเจอร์ ผนังห้องหรือส่วนประกอบอย่างอื่น เช่น ชุดเครื่องนอน ผ้าคลุมต่างๆ


เน้น :  สีที่ดูสดชื่น สดใส ผ่อนคลายช่วยในการบังแดดและสะท้อนความร้อนที่เข้ามารบกวนขณะพักผ่อน สามารถสร้างความรู้สึกส่วนตัวให้แก่เจ้าของห้องและยังทำให้การพักผ่อนมีคุณภาพมากขึ้น


แนะนำ : ควรใช้ผ้ากันแสงอีกชั้นหนึ่งที่เรียกว่าแบล็กเอาท์  หรือไม่ก็ควรเป็นม่านพับ, ม่านม้วน ก็สามารถกันแสงก็ได้เช่นกัน  ซึ่งม่านบางชนิดมีวัสดุที่สามารถกันแสงได้ถึง100 % และม่านดังกล่าวนี้ สามารถซ่อนเข้าไปภายในผ้าม่านหลักได้โดยไม่กินพื้นที่ เปิดปิดได้ง่าย สะดวกในการใช้งาน


สี : ไม่ควรใช้สีเข้มมากนัก สมควรเป็นสีโทนเย็นและสว่างเพื่อให้รู้สึกสบายตาและที่สำคัญสามารถทำให้ห้องของคุณดูกว้างขึ้นได้อีกด้วย


ห้องทำงาน/ห้องหนังสือ เป็นห้องที่ต้องการความสงบเพื่อใช้ความคิดหรือสมาธิในการอ่านหนังสือหรือทำงาน


เน้น :  ควรเป็นผ้าพื้นสีเท่านั้น แต่ถ้าจะมีลายก็ขอให้เป็นลายผ้าที่เล็กๆ ไม่เด่นสะดุดตา อาจจะเลือกเป็นม่านปรับแสงหรือมู่ลี่ก็ได้เช่นกัน


แนะนำ : สามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมตามสไตล์ความชอบ แต่ควรมีรูปแบบที่เรียบง่ายมากที่สุด หรือถ้าไม่เป็นผ้าม่านอาจใช้เป็นมู่ลี่ หรือม่านปรับแสงก็ได้ ทั้งสองอย่างมีแบบและวัสดุให้เลือกหลายอย่าง ทั้งไม้ อลูมิเนียม พลาสติก ผ้าสังเคราะห์ โดยมีโทนสีต่างๆให้เลือกเพื่อให้เข้ากับผ้าม่านในห้องอื่นๆได้เช่นกัน เหตุผลที่ต้องเป็นม่านปรับแสงหรือมู่ลี่เนื่องจาก ทั้งม่านสองอย่างนี้คุณลักษณะคือตัวใบหรือตัววัสดุจะเป็นแนวนอนและแนวตั้งเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ไม่รบกวนหรือดึงดูดความสนใจ ตรงนี้จะทำให้อารมณ์ความรู้สึกสงบ ไม่กระทบในการอ่านหนังสือและการการใช้ความคิด ใช้งานสะดวกโดยสามารถปรับแสงเมื่อต้องการลดหรือเพิ่มแสงได้


สี : สีสันของผ้าม่านไม่ควรเป็นสีที่ฉูดฉาด ควรเป็นสีที่ช่วยให้คุณได้พักสายตา หรือทำงานอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้นและดูความลงตัวของโทนสีในห้องเป็นหลัก


ห้องครัว เป็นห้องที่ใช้ในการปรุงอาหารถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่นๆ และยังเป็นอีกห้องกิจกรรมหลักของคุณแม่บ้าน


เน้น :  ไม่ควรเลือกผ้าที่ทึบแสงเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกอับทึบหรืออากาศไม่ถ่ายเท อีกทั้งยังควรให้มีแสงสว่างและความปลอดโปร่งเพื่อเป็นการระบายอากาศที่ดี


แนะนำ : ควรทำเป็นม่านโปร่ง ผ้าโปร่งแสง หรือแบบมู่ลี่ เพราะเราสามารถปรับระดับแสงในระดับที่ต้องการและสามารถบังสายตาจากแดดจ้าๆ ได้ ที่สำคัญต้องทำความสะอาดได้ง่าย


สี : ควรเน้นกลางๆ ในโทนร้อน ไม่สดหรือไม่เข้มจนเกินไปเพื่อให้แม่ครัวรู้สึกสบายตาเวลาทำอาหารแต่สามารถ กระตุ้นความอยากอาหารได้เช่นกัน เช่น สีครีม สีส้มอ่อน


ห้องรับประทานอาหาร  เราอาจนึกถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น โต๊ะอาหาร เก้าอี้ โคมไฟ เคาน์เตอร์ โดยที่บางทีอาจจะลืมนึกถึงการเลือกผ้าม่านที่เหมาะสมกับห้อง เพราะผ้าม่านจะช่วยเพิ่มความนุ่มนวล อบอุ่น ให้กับห้องที่มีแต่เฟอร์นิเจอร์แข็งๆ ได้


เน้น : การสร้างบรรยากาศให้มื้ออาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น สามารถควบคุมแสงที่ผ่านเข้ามาได้ตามความต้องการ หากวันใดเกิดอยากจุดเทียนดินเนอร์ขึ้นมาก็สามารถทำได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างไรก็ควรให้เข้ากับสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์ หรืออย่างน้อยให้ออกโทนใกล้เคียงกันกับภายในห้อง


แนะนำ : ในห้องนี้สามรถใช้ได้ทั้งมู่ลี่และผ้าม่าน แต่ถ้าเป็นผ้าขอเป็นแบบกรองแสง อย่าทึบจนเกินไป เพราะหากเป็นผ้าแบบหนา กลิ่นอาหารสามารถติดได้ง่ายจึงไม่ควรใช้ผ้าที่มีน้ำหนักหรือหนามากสำหรับห้องนี้


สี : ควรเน้นสีสดๆ เป็นหลัก เช่น เขียว แดง เหลือง ส้ม เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมดูความเหมาะสมและโทนสีของห้องด้วยนะคะ


ห้องน้ำ ถือว่าเป็นอีกห้องหนึ่งที่ต้องใช้ทุกวันของเจ้าของบ้าน เพื่อความสะอาดและผ่อนคลายความเหนื่อยล้า จากการทำงานมาทั้งวัน


เน้น : สร้างความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้ใช้งาน รวมไปถึงสร้างความสวยงามและสบายตาได้


แนะนำ : แบบม่านที่เหมาะสมคือมู่ลี่ เพราะง่ายต้องการเช็ดและทำความสะอาด รวมไปถึงหากโดนละอองน้ำหรือเปียกก็สามารถดูแลง่าย ไม่ดูดน้ำ ลดการก่อเชื้อรา และไม่สร้างกลิ่นอับอีกด้วย


สี : ควรเป็นสีที่โทนเย็นเพื่อสร้างความสบายตาเมื่อเข้าใช้งานภายในห้อง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความเหมาะสม




Back